Thursday, March 19, 2015

Update ความคืบหน้าปรึกษาหมอแก้ไขจมูก

สวัสดีค่ะ ต้องขอโทษที่ห่างหายไปนาน ไม่ได้มา update เป็นปีเลยค่ะ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังนะคะว่าปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง และได้ไปปรึกษาหมอไหนมั่ง และที่สำคัญเราแก้จมูกกับหมออะไร (ตอนนี้เพิ่งแก้จมูกเสร็จไปไม่กี่วันค่ะ เดี๋ยวจะ Update ทีหลังนะคะ)

ก่อนอื่นหากใครยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับการทำจมูกของเราครั้งแรกๆ
สามารถอ่านได้ที่นี่เลยนะคะ http://goo.gl/iNQHRg ซึ่งเราเขียนไว้ตอนสิ้นปี 2556 ค่ะ

สำหรับปี 2557 เราก็พยายามตระเวณปรึกษาหมอเพิ่มค่ะ เราไปปรึกษา หมอวีระพันธ์ บางแสน (V-Plast Clinic) อยู่หลายครั้ง หมอให้คำปรึกษาดีมากค่ะ หมอบอกว่าจมูกของเราตรงปลายมันแข็งมากเพราะมีพังผืดข้างใน หมอแนะนำให้นวดจมูกบ่อยๆค่ะ นวดตลอดเวลาได้ยิ่งดี และก็ให้ยามาทาตรงปลายจมูกค่ะ นี่คือยาที่หมอจ่ายให้ค่ะ (เราเคยลองไปหาซื้อตามร้านขายยาก็ไม่มีค่ะ ต้องจากแพทย์โดยตรงเท่านั้น) 



หรือถ้าไม่ใช้ยานี้ก็สามารถใช้คัตเติ้ลบัตรชุบเบบี้ออยแล้วทาตรงปลายรูจมูกได้ค่ะ หมอบอกว่าการที่เราหมั่นนวดทุกวันๆจะทำให้เนื้อมันคลายตัวมากขึ้น ให้เนื้อตรงปลายมันนิ่มขึ้น และทำให้พังผืดไม่เกาะกันเป็นก้อนแข็งๆ และการที่เราใช้ยาหรือเบบี้ออยทาตรงปลายรูจมูกก็จะส่งผลให้เนื้อตรงปลายมันนิ่มขึ้นด้วยค่ะ หมอให้คำแนะนำดีค่ะ ถ้าแก้ได้เลยก็จะบอกว่าสามารถทำได้เลย แต่ถ้ายังไม่ถึงเวลาก็จะบอกให้เรารอก่อนค่ะ ช่วงนั้นหลังจากที่ปรึกษาหลายหมอ ก็คิดว่าน่าจะแก้กับหมอวีระพันธ์ เลยไปปรึกษาเรื่อยๆอยู่ 3-4 ครั้งค่ะ (ประมาณ 3 เดือนไปพบที) ทุกครั้งที่ไปพบหมอก็จะบอกว่าให้รอค่ะ เพราะยังไม่เหมาะและยังไม่ถึงเวลาที่จะแก้ 

คือต้องบอกว่าประทับใจการให้คำปรึกษาของหมอวีระพันธ์ค่ะ เพราะแกอธิบายละเอียด และอธิบายอย่างใจเย็น ไม่เหมือนหมอบางท่านที่เราเข้าไปปรึกษาและพูดไม่กี่คำหรืออธิบายไม่เคลียร์ค่ะ และปี 2557 ก็เป็นปีที่เราหมั่นนวดจมูกและทายาที่หมอให้ค่ะ ทำแบบนี้ตลอดปีค่ะ นวดอย่างเดียว เพราะการที่จมูกของเราผ่านการผ่าตัดมาหลายครั้ง ควรจะปล่อยและรอเวลาก่อน ถ้าหากไปแก้ทันทีอาจจะทำให้จมูกเราแย่ลงก็ได้ค่ะ ต้องบอกเลยค่ะว่าเป็น 1 ปีที่ต้องอดทนพอสมควร 

เราหมั่นนวดจมูกตลอดปีทำให้จมูกของเราไม่รั้งขึ้นและไม่เชิดเป็นจมูกหมูเหมือนตอนแรกค่ะ เมื่อนวดบ่อยๆทำให้เนื้อตรงปลายจมูกมันคลายลงค่ะ ลองดูรูปนะคะ


อย่างที่บอกค่ะ เราทำตามที่คุณหมอแนะนำ เรานวดปลายจมูกทุกวันๆจนเป็นกิจวัตรประจำวันไปเลย และผลลัพธ์ก็ประกฎค่ะ ปลายจมูกเริ่มดีขึ้นๆเพราะมันไม่เชิดเหมือนตอนแรก นานไปรอยช้ำตรงกลางก็เริ่มจางลงจนแทบจะมองไม่เห็นค่ะ 

รูปของวันที่ 17 มี.ค. คือไม่มีซิลิโคนแล้วและตรงปลายจมูกก็ยังไม่แน่ใจว่ากระดูกหูมันยังเหลืออยู่หรือว่ามันสลายไปแล้ว แต่ที่เราไม่ชอบคือปลายจมูกมันแด่นค่ะ เวลายิ้มเราไม่มั่นใจเลย เวลาถ่ายรูปก็ยิ่มได้ไม่เต็มที่ ตามที่เห็นในรูปเลยค่ะ ยิ่งเวลาถ่ายรูปด้านข้างแล้วยิ้ม ยิ่งดูออกว่ามันแด่นออกมาค่ะ เราเลยยังมุ่งมั่นที่จะหาหมอแก้จมูกค่ะ


ช่วงปลายปี 2557 เราได้คุยกับคุณมะเหมี่ยวผ่านทาง Facebook ค่ะ สำหรับคนที่ยังไม่เคยได้ยินเรื่องราวของคุณมะเหมี่ยว สามารถตามอ่านได้ ที่นี่ ค่ะ คุณมะเหมี่ยวได้ไปแก้จมูกมาเรียบร้อยแล้วและดีขึ้นมาก เราก็เลยสอบถามข้อมูลค่ะ ก็ได้ความว่าคุณมะเหมี่ยวได้ทางเว็บ Dodeden เป็นธุระให้ และ Admin ของเว็บนี้ก็พยายามช่วยเหลือในเรื่องของการให้กำลังใจ ให้คำแนะนำ และหาหมอแก้จมูกให้ จากนั้นเราก็เลยติดต่อไปยังเว็บ Dodeden เพื่อขอคำปรึกษาค่ะ เราได้คุยกับพี่โอเปิ้ล (Admin เว็บ Dodeden) ว่าเราเคสของเราเป็นแบบนี้ เราควรจะแก้กับหมอท่านไหนดี 

เราถามไปหลายหมอเหมือนกัน พี่เค้าก็บอกมาตรงๆเลยค่ะว่าส่วนใหญ่หมอที่เราไปปรึกษามา เคสหลุดเยอะ จมูกเราสามารถแก้ได้ เพียงแต่ต้องหาหมอที่มีฝีมือและเก่งจริงๆ พี่เค้าแนะนำให้ลองไปปรึกษาหมอเฉลิม ฟอร์จูนคลินิก ซึ่งเราก็ลองไปปรึกษาค่ะ และรวมถึงปรึกษาหมอท่านอื่นเพิ่มเติมด้วย ต่อไปนี้จะมีทั้งหมด 4 หมอที่เราไปปรึกษาเพิ่มเติมค่ะ

1) หมอเฉลิม ฟอร์จูนคลินิก 
ตอนเราเข้าไปปรึกษา หมอคุยดีค่ะ หมอถามว่าทำไมถึงไม่แก้กับหมอคนเดิม มันเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มนะ เราก็อธิบายว่าเราเข็ดกับหมอเดิมแล้วเพราะผ่ามาหลายรอบ เลยอยากแก้กับหมออื่น คุณหมอก็บอกว่าจมูกของเราแก้ได้ โดยเค้าจะใส่ซิลิโคนเข้าไปอย่างเดียว เค้าบอกว่าตรงปลายจมูกเราดีอยู่แล้วไม่ต้องแก้ ประมาณนี้ค่ะ ค่าแก้ 70,000 บาท

2) หมอมนัส Meko Clinic
พอดีตอนแรกน้าเราไปเจอข่าวของคุณหมอมนัสในหน้าหนังสือพิมพ์ แล้วเอามาให้เราดูค่ะ ประกอบกับเราถามพี่โอเปิ้ลด้วยว่าคุณหมอคนนี้ ok มั้ย พี่เค้าก็แนะนำว่าดีค่ะ เราก็เลยลองไปปรึกษาคุณหมอดู คุณหมอให้คำแนะนำดีมากค่ะ อธิบายละเอียดว่าจะแก้จมูกเราอย่างไร คุณหมอบอกว่า จมูกเราต้องทำ 3 อย่างคือ ตะไบ เสริมซิลิโคน และแต่งปลายจมูกค่ะ เพราะกระดูกตรงกลางเราไม่เรียบควรตะไบให้มันเรียบ เวลาใส่ซิลิโคนมันจะได้แนบเนื้อและดูดี และเราควรแก้ปลายจมูกเพราะตรงปลายมันไม่เท่ากัน (ถ้าจ้องใกล้ๆหรือสังเกตุดีๆจะเห็นชัดค่ะว่ามันเอียงๆ) พอถามหมอว่ากระดูกหูมันยังอยู่มั้ย หมอบอกว่าหมอไม่รู้ เราต้องมาดูกันอีกที มันอาจจะอยู่หรือไม่อยู่ก็ได้ ถ้าอยู่ก็ต้องดูว่ามันยังนำกลับมาใช้ได้มั้ยหรืออาจจะต้องตัดแต่งเพิ่มหน่อย แต่ถ้าไม่อยู่ หมอก็มีวิธีทำให้มันมีหยดน้ำ แต่เทคนิคหมอจะไม่มีการใช้กระดูกหูมาต่อปลาย หรือเอาเนื้อตรงอื่นมาปะแน่นอน หมอบอกใช้ซิลิโคนอย่างเดียวนี่แหละก็มีหยดน้ำได้ ค่าแก้ 120,000 บาท

3) หมอวีรพันธ์ บางแสน V-Plast Clinic
เราปรึกษาหมอคนนี้ประมาณ 3-4 ครั้งได้ ก็คุยกับคุณหมอค่ะว่าวิธีการแก้เป็นอย่างไร ได้ความว่าจมูกเราแก้โดยการเสริมซิลิโคนเข้าไปและแก้ปลาย แต่การแก้ปลายจมูกของคุณหมออาจจะต้อง้กระดูกหลังหู หรือ ใช้เนื้อเยื่อสังเคราะห์ หรือ ใช้กระดูกในโพรงจมูกค่ะ ซึ่งเราคิดว่าถ้าเราแก้จมูกและใช้เทคนิคพวกนี้แก้ปลาย แล้วถ้าเกิดจมูกเรามีปัญหาอีกล่ะ เพราะยิ่งเทคนิคเยอะ เราก็ไม่รู้ว่าจมูกเราจะเป็นอย่างไรถ้าเกิดปัญหาขึ้นอีก เลยยังไม่แน่ใจค่ะว่าจะแก้กับหมอดีมั้ย ค่าแก้ไม่แน่ใจค่ะน่าจะอยู่ที่ 70,000-80,000 บาท

4) หมอกิตติศักดิ์ เลอลักษณ์
วันที่เราไปปรึกษา รอนานมากค่ะหลายชั่วโมงอยู่ พอขึ้นไปพบจริงๆคุณหมอดูรีบมากค่ะ จำได้ว่าคุยกันไม่ถึง 5 นาที -_- (ชั้นอุตส่าห์รอนานมากกกกก) เราก็เล่าเคสเราให้หมอฟัง หมอก็ตอบมาสั้นๆค่ะว่าแก้ได้เลย จะแก้โดยการใส่ซิลิโคนเข้าไปอย่างเดียวเพราะตรงปลายมันมีอยู่แล้ว ประมาณนี้ค่ะ ค่าแก้อยู่ที่ 30,000 บาท

--------------------------------------------------------------------

เราก็เลยมานั่งวิเคราะห์การแก้จมูกของเราของหมอแต่ละคนที่เราเคยไปปรึกษามา และในที่สุดเราก็เลือกที่จะแก้จมูกกับคุณหมอมนัส Meko Clinic ค่ะ เพราะหลายเหตุผลด้วยกัน

เหตุผลที่ 1
หมอมนัสอธิบายละเอียดค่ะ คุณหมอคุยดีและใจเย็นค่ะ มีคำถามอะไรให้ถามค่ะ เค้าจะตอบทุกคำถาม เราปรึกษาคุณหมอทั้งหมด 2 รอบ รอบแรกเราไปคนเดียวค่ะ รอบที่สองไปกับคุณแม่ หมออธิบายดีและบอกว่าเค้าจะแก้จมูกเราอย่างไรบ้าง และจมูกเราจะออกมาเป็นประมาณไหน เค้าบอกว่าตอนนี้จมูกเราข้างในเป็นอะไรก็ไม่รู้ เค้าจะรู้จริงๆก็ตอนผ่า เหมือนกันต้องแก้หน้างานน่ะค่ะ เค้าไม่การันตี 100% ว่าจมูกเราจะสวยเป๊ะเวอร์ หรือจะมีปัญหาอะไรมั้ย เพราะตามกฎแพทย์ถ้าการันตีกับคนไข้นี่ถือว่าผิดกฎทันที แต่เค้าบอกว่าเค้าจะทำให้สวยที่สุด หลังทำหน้าเราจะดูเรียวขึ้นและหวานกว่านี้ จมูกเราที่เคยแด่นจะไม่แด่นอีก คุณหมอเรียกจมูกเราว่าจมูกลูกชิ้นค่ะ (ฟังแล้วยังขำอยู่เลย) หมอจะทำให้ปลายดูดีขึ้น ปลายจะเชิดขึ้นในองศาที่รับกับหน้าค่ะ

เหตุผลที่ 2
เราได้รับคำแนะนำจากหลายๆคนว่าดี  เช่นพี่โอเปิ่ลจากเว็บ Dodeden, สื่อต่างๆเพราะคุณหมอออกสื่อเยอะมาก, รีวิวในเว็บไซต์, วีดีโอ youtube รายการที่หมอออก, และเราไปตั้งกระทู้ถามในเว็บดั้งโด่งก็มีแต่คนบอกว่าดีและแนะนำให้ดูรีวิวของเค้าที่ไปทำจมูกกับคุณหมอค่ะ และด้วยความที่คุณหมอมีประสบการณ์มากว่า 30 ปี จากตรงนี้ก็เลยใจชื้นขึ้นมาระดับหนึ่ง

เหตุผลที่ 3
สถานที่และการบริการของทาง Meko Clinic ถือว่าเลิศและน่าประทับใจมากค่ะ คลินิกดูสะอาดมาก เราไปพบหมอที่สาขา Central World ค่ะ พนักงานแต่งตัวดี บริการดี และให้คำแนะนำดีค่ะ ที่สำคัญอยู่ในห้างด้วย ทำให้ระดับความเชื่อถือดูเพิ่มขึ้นค่ะ (Meko Clinic มีหลายสาขาค่ะ แต่เราเลือกไป Central World เพราะสะดวกสุดค่ะ)


(Meko Clinic สาขา Central World ค่ะ)


เราตัดสินใจแก้จมูกกับหมอมนัส Meko Clinic วันที่ 17 มี.ค. 2558 ค่ะ

แล้วไว้จะมา Update การแก้จมูกให้ฟังกันอีกทีนะคะ



4 comments:

  1. รออ่านตอนต่อไป

    ReplyDelete
  2. This comment has been removed by the author.

    ReplyDelete
  3. ขอให้รักษาหายไวๆนะครับ
    จรึงๆ search มาเจอแบบฟลุกๆนะครับ

    ReplyDelete
  4. ขอให้รักษาหายไวๆนะครับ
    จรึงๆ search มาเจอแบบฟลุกๆนะครับ

    ReplyDelete